5 เทคนิคการระบายสีน้ำแบบง่าย ๆ ให้เก่งเหมือนจิตรกร
สีน้ำถือว่าเป็นสีพื้นฐานที่เด็ก ๆ หลายคนต้องเคยหยิบจับมาให้งานในการสร้างสรรค์งานศิลปะ เนื่องด้วยสีน้ำเป็นสีที่เมื่อได้ระบายสีน้ำลงบนกระดาษแล้วจะให้ความสวยสมจริง และมีความเป็นธรรมชาติ แต่เด็ก ๆ หลายคนก็อาจจะเจอปัญหาในการระบายสีน้ำอยู่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการลงสีในบางจุดที่ไม่เท่ากัน สีน้ำจับตัวเป็นก้อนบ้าง หรือระบายสีน้ำทับกันจนทำให้ภาพออกมาไม่สวยก็มี และอีกหลาย ๆ ปัญหาที่จะทำให้งานศิลปะของเด็กออกมาไม่สวย วันนี้เราจึงมี 5 เทคนิคการระบายสีน้ำแบบง่าย ๆ ให้เก่งเหมือนจิตรกรมาระบายเองเลย มาแนะนำกัน
เทคนิคที่ 1: ระบายสีน้ำแบบฉาบเรียบ (Flat Wash)
การระบายสีน้ำแบบฉาบเรียบในขั้นตอนแรกคือการต้องผสมสีใหม่พอเหมาะพอดี เนื้อสีที่ผสมกันต้องไม่หนืดและไม่เหลวจนเกินไป สามารถตรวจเช็กได้ง่าย ๆ ด้วยการนำพู่กันจุ่มสีแล้วนำไปป้ายลงในกระดาษที่ไม่ใช้แล้วเพื่อทดสอบว่าเข้มข้นให้พอเหมาะกับที่ต้องการ หากได้ความเข้มข้นตามที่ต้องการแล้วก็สามารถลงสีจริงได้เลย โดยเริ่มจากการใช้พู่กันจุ่มสีน้ำแล้วนำมาปาดลงบนภาพที่วาดไว้หนึ่งครั้ง แล้วครั้งต่อไปก็ใช้พู่กันจุ่มสีน้ำแล้วปาดไปในทิศทางเดียวกันเรื่อย ๆ จนเต็มภาพ อาจจะปาดสีน้ำให้มีเหลื่อมกันได้เพื่อเป็นการเก็บรายละเอียดที่เป็นรอยต่อให้ดูเรียบเนียนขึ้น เราก็จะได้ภาพระบายสีน้ำที่สวย ดูดี ตามที่เราต้องการแล้ว
เทคนิคที่ 2: ระบายสีไล่เฉดสีจากเข้ม – อ่อน
เทคนิคในการระบายสีน้ำด้วยการไล่เฉดสีจากสีเข้มไปอ่อน หรือจากอ่อนไปเข้ม เป็นเทคนิคที่จะทำให้ภาพออกมามิติมากขึ้น ซึ่งมีวิธีการที่ไม่ยากมากโดยก่อนอื่นเลยเราต้องลงปาดสีแรกก่อนในจุดที่ต้องการในภาพ แล้วจากนั้นให้ล้างสีที่ติดพู่กันออกก่อนแล้วจึงนำไปจุ่มสีที่ 2 แล้วทำการปาดสีที่ 2 ทับลงไประหว่างสีแรกตรงรอยต่อ หากเราต้องการจะไล่เฉดสีจากเข้มไปอ่อนก็ต้องเพิ่มน้ำลงไปในจำนวนที่เท่ากัน ในทางตรงกันข้ามหากจะระบายสีน้ำไล่เฉดสีจากอ่อนไปเข้มก็ต้องบีบสีเพิ่มความเข้มลงไปในจำนวนที่เท่ากันทุกครั้งเช่นกัน ที่สำคัญคือสีต้องไม่แห้งต้องมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่เสมอ
เทคนิคที่ 3: ระบายสีน้ำแบบเปียกบนพื้นที่เปียก (Wet on Wet)
เป็นเทคนิคการระบายสีน้ำที่ต้องใช้สีที่ผสมน้ำแล้วลงไปบนกระดาษที่เปียกชุ่มน้ำไว้แล้ว โดยส่วนใหญ่แล้วเทคนิคนี้จะใช้สำหรับระบายภาพต้องการให้รู้สึกถึงความชุ่มชื้น อุดมสมบูรณ์ เช่น ท้องฟ้า แม่น้ำ ทะเล เป็นต้น ซึ่งวิธีในการระบายนั้นเริ่มจากการสร้างพื้นที่ที่เปียกน้ำบนภาพก่อน ด้วยการใช้พู่กันจุ่มน้ำแล้วปาดลงบนกระดาษ จากนั้นใช้พู่กันจุ่มสีแรกให้ชุ่มแล้วหยดสีลงไปเท่าที่ต้องการอย่างบรรจงที่สุด แล้วใช้พู่กันล้างน้ำก่อนแล้วนำไปจุ่มสีที่ 2 แล้วหยดลงไปในพื้นที่ที่เปียกน้ำอีกครั้ง ปล่อยให้สีได้ผสมกันจนเข้ากันได้ดี ถ้าสีมากไปหรือเลอะกระดาษก็ให้ใช้ทิชชูซับลงเบา ๆ ได้เช่นกัน แล้วรอให้แห้ง ก็จะได้ภาพที่ออกมาสวยงามตามต้องการแล้ว
เทคนิคที่ 4: ระบายสีน้ำแบบเปียกบนพื้นที่แห้ง (Wet on Dry)
เป็นเทคนิคที่หลายคนนิยมใช้กันมากที่สุด เพราะเป็นเทคนิคที่ทำให้ภาพมีลวดลายที่สวย สร้างแสงเงาของภาพได้ดี ซึ่งสีได้จากการระบายจะออกมาเรียบเนียน ส่วนใหญ่มักจะระบายภาพที่เป็นวัตถุพื้นผิวเรียบ เช่น พื้นถนน ผนังกำแพงตึก ผนังบ้าน เป็นต้น การระบายสีน้ำเทคนิคนี้จะเริ่มจากการปาดสีแรกลงบนกระดาษไปก่อนแล้วรอให้สีแห้งสนิท แล้วจึงปาดสีที่ 2 ทับลงไป ซึ่งสีที่ 2 นั้นเราจะต้องเลือกเฉดสีที่มีความเข้มกว่าสีแรกเสมอ เพื่อให้มีการแบ่งชั้นสีอย่างชัดเจน และเราสามารถใช้น้ำเบลอขอบสีเพื่อให้ดูนุ่มนวลลงได้ตามต้องการ
เทคนิคที่ 5: ระบายสีน้ำแบบแห้งบนพื้นที่แห้ง (Dry on Dry)
เป็นเทคนิคการระบายสีน้ำที่ใช้น้ำผสมสีเข้าไปให้น้อยที่สุดหรือจะไม่ผสมน้ำเลยก็ได้ แล้วระบายลงบนกระดาษที่แห้งตามต้องการได้เลย โดยสีได้นั้นจะมีลักษณะที่ขรุขระ หยาบ ไม่เรียบ ซึ่งจะเหมาะสำหรับการระบายภาพพื้นดิน ภูเขา หน้าผา หิน ทางเดินที่ขรุขระ เป็นต้น หรือจะใช้ในการเก็บรายละเอียดของภาพเล็ก ๆ น้อย ๆ ในขั้นตอนสุดท้ายของการระบายสีน้ำก็ได้เช่นกัน
และทั้งหมดนี้ก็เป็นเทคนิคระบายสีน้ำแบบง่าย ๆ และถือว่าเป็นพื้นฐานของการระบายสีน้ำเลยก็ว่า ถ้าหากอยากให้เด็ก ๆ หรือลูกน้อยระบายสีได้เก่งขึ้นควรที่จะฝึกฝนและสร้างผลงานศิลปะอยู่เสมอเป็นประจำ เลยเลือกใช้อุปกรณ์ระบายสีที่ช่วยให้ภาพของเด็กสวยขึ้นอีกเท่าตัวด้วยสีน้ำมาสเตอร์อาร์ต สีน้ำที่ให้เม็ดสีเข้มข้น สวยสด เนียนละเอียด ระบายสีได้สวยสดทุกงานระบาย อีกทั้งยังปลอดภัยไร้สารตะกั่ว บรรจุในหลอดลามิเนตมีความยืดหยุ่นคล้ายหลอดยาสีฟัน บีบใช้งานง่าย ไม่รั่วซึม และได้รับเครื่องหมาย EN 71-3 ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยจากยุโรป สามารถใช้งานได้อย่างไร้กังวล มาพร้อมกับพู่กันเบอร์ 6 เพื่อใช้งานได้ทันที หาซื้อได้แล้วที่ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าชั้นนำทั่วไปทั่วประเทศ
คลิกช้อปเลย
Facebook Comments